คนกับสังคม


บรรยากาศทางการเมืองทั่วโลก หรือเฉพาะภูมิภาคในช่วงเวลานี้ เรียกได้ว่าร้อนระอุยิ่งกว่าภูมิอากาศบ้านเรา  อาจจะเป็นเพราะความร้อนรุ่มในจิตใจจากตัณหา ความอยากเด่น อยากดัง อยากครองโลก อยากมีชื่อจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ หรืออยากจะมีตัวตนรวมอยู่ในหมู่ชนชั้นสูงของสังคม พยายามหาวิธีการถีบตัวเองขึ้นสู่จุดสูงสุดของสังคม เพื่อให้มีอำนาจยืนเด่นอยู่เหนือประชาชนโดยทั่วไป จึงมีความพยายามสร้างสถานการณ์ต่าง ๆ ขึ้นมา เพื่อให้ชื่อของตนได้รับการกล่าวขานถึง โดยไม่นำพาต่อผลกระทบที่จะเกิดขึ้นตามมาในภายหลัง ซึ่งอาจจะเป็นความสูญเสีย ทั้งทรัพย์สินของประเทศ หรือเลือดเนื้อ และชีวิตของประชาชน  พูดได้เต็มปากว่า พฤติกรรมทั้งหลายทั้งมวล เกิดขึ้นมาจาก "นักการเมือง" 

นักการเมือง ที่อาจจะเกิดขึ้นมาจากการเลือกสรรของตัวแทนประชาชน หรืออาจจะเกิดขึ้นมาจากการเลือกตั้ง ตามระบอบประชาธิปไตย หรืออาจจะเกิดขึ้นมาจากการนำเสนอตัวเองเข้ามาเป็นผู้นำเสียเอง ด้วยอิทธิพล ด้วยอำนาจเงิน หรือด้วยวิถีทางอื่น ด้วยความช่วยเหลือจากกลุ่มคนรุ่นใหม่ และวิทยาการเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้มีโอกาสแก้ไข ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ข้อมูลข่าวสาร ที่มีอยู่ให้แปรเปลี่ยนเป็นข้อมูลเท็จ ปกปิดความจริงที่ประชาชนควรจะได้รับรู้ และยัดเยียดข้อมูลข่าวสารที่ถูกบิดเบือน ให้แพร่กระจายออกไปเป็นวงกว้าง จึงไม่แปลกอะไรที่จะพบว่า มีนักการเมืองไทยจำนวนมาก เป็นเจ้าของกิจการสื่อสิ่งพิมพ์ หรือเป็นผู้มีบทบาทอย่างสูงในวงการสื่อสารมวลชน 

ข้อมูลเกี่ยวกับแนวคิดของหัวหน้าพรรคการเมืองรุ่นใหม่ ที่ออกมาโจมตีทหารอย่างต่อเนื่อง ด้วยข้อมูลที่ไม่ตรงกับความจริง ด้วยวาทกรรมที่น่าสะอิดสะเอียนหลายประการ บ่งบอกถึงระดับสติปัญญาอันต่ำตมของผู้ที่อาสาเสนอตัวเข้ามาเป็นผู้นำประเทศ ว่าไม่ได้มีจิตสำนึกในความเป็นคนไทยที่แท้จริง ไม่มีวิจารณญาณในการไตร่ตรองถึงเหตุและผล ของแนวความคิดในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ในสมองจึงมีแต่ความคิดแบบขอทาน เสนอแนวคิดแบบสุดโต่งขึ้นมาว่า ประเทศไทยไม่ควรมีกำลังทหารประจำการอยู่ ซึ่งหากเกิดสงครามขึ้นมาในวันหนึ่งข้างหน้า คนพวกนี้ก็คงจะต้องวิ่งไปกราบกรานขอกองกำลังต่างชาติให้เข้ามาช่วยเหลือ นี่หรือแนวความคคิดของผู้นำประเทศที่เป็นเอกราชมายาวนาน 

พวกมันอวดอ้างตัวเองว่า รับการศึกษามาจากต่างประเทศ ดังนั้นชีวิตนี้คงไม่เคยศึกษาประวัติศาสตร์ไทยมาก่อนเลยจากสถาบันการรศึกษาในต่างประเทศ และบรรพบุรุษ ตลอดจนถึงปู่ย่าตายายพ่อแม่ของพวกมัน ก็คงไม่เคยบอกเล่าเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชาติไทยมาก่อนเลยเช่นกัน แต่ก็ยอมรับได้เพราะปู่ย่าตายายของพวกมันบางคน ก็เพิ่งจะหอบเสื่อผืนหมอนใบ ข้ามน้ำข้ามทะเลมาอยู่เมืองไทย จึงไม่รู้ถึงเกียรติประวัติและวีรกรรมของบรรพบุรุษไทยที่มีมาอย่างยาวนาน 

ที่สำคัญที่สุดก็คือ พวกมันควรรจะรู้ไว้ว่า ประเทศไทยเราก้าวหน้า เจริญเติบโต มีเอกราชยืนยงอยู่มาตั้งแต่โบราณกาล มาจนถึงทุกวันนี้ได้ ก็ด้วยความเสียสละ ทั้งเลือดเนื้อและชีวิตของเหล่านักรบไทย เป็นสำคัญ 

ประเทศไทย ไม่ได้ดำรงเอกราชอยู่ได้เพราะ "นักการเมือง"

แต่อาจจะต้องสูญเสียเอกราชในสักวันหนึ่ง เพราะ "นักการเมือง"

การปลุกระดม โฆษณาชวนเชื่อ ให้ประชาชนเกิดความบ้าคลั่ง หลงไหล ในประชาธิปไตย จนเกินขอบเขต ข้อเท็จจริง โดยไม่ได้พูดถึงหลักการที่แท้จริงของประชาธิปไตย ว่าเป็นระบอบการปกครองที่มีนายทุนเป็นแก่นแท้ซุกซ่อนอยู่ภายใน และมีประชาชนเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการก้าวขึ้นไปส่จุดหมาย 

นั่นก็คือ การแสวงหาผลประโยชน์จากทรัพยากรของแผ่นดิน



โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

การเมืองใต้ตม

สติทางการเมือง

วงล้อการเมืองเริ่มหมุน