วิมานในฝัน

 



มีความเคลื่อนไหวของคนที่ฝักใฝ่ลุ่มหลงในเงาการเมือง ในการปรับเปลี่ยนรูปแบบการปกครองใหม่ ซึ่งจะว่าไปแล้ว มันก็เป็นความฝันของนักการเมืองท้องถิ่นมาตั้งแต่ปีมะโว้แล้วล่ะ แต่ไม่สามารถเดินต่อไปได้ เพราะเกิดอุปสรรคหลายประการ จะเรียกว่าอุปสรรคก็ไม่น่าจะใช่เสียทีเดียว ควรจะเรียกว่า มันติดขัดตรงที่ว่า มันเป็นไปไม่ได้เอาเสียเลย กับโลกของความเป็นจริงในสังคมไทย 
เรื่่องที่ว่า คือ การปรับปรุงและเพิ่มอำนาจทางการบริหาร การปกครอง ให้กับการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น โดยจัดให้มีการเลือกตั้งส่วนท้องถิ่นตั้งแต การเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด นายกและสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด นายกและสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน (ไม่แน่ใจนะว่ามีการเลือกตั้งนายอำเภอด้วยหรือเปล่า เพื่อให้ครบทุกตำแหน่ง) 
คนที่มีแนวความิดเช่นนี้ เข้าใจว่าคงจะนั่งจิบไวน์กระดิกขาอยู่บนดาดฟ้าตึกสูง แล้วก็แหงนคอมองดูเมฆบนฟ้า จินตนาการอะไรต่อมิอะไรไปเรื่อยเปื่อย โดยไม่เคยก้มหน้าลงมามองดูผู้คนบนท้องถนน ว่าใช้ชีวิตกันอย่างไรในโลกของความเป็นจริง คิดไปเองว่าข้าราชการประจำทุกคน ล้วนแต่ทุจริตคิดไม่ชอบ ผลาญเงินภาษีของประชาชนไปโดยเปล่าประโยชน์ ไม่ได้บริหารราชการหรืองานในส่วนของตนเอง ให้ตรงกับความต้องการของประชาชนภายในแต่ละท้องถิ่น 
เข้าใจว่าเจ้าของแนวความคิดนี้ คงไม่เคยติดตามข่าวสารบ้านเมืองเป็นแน่ และคงคิดเอาเองว่า นักการเมืองท้องถิ่นทุกคน ที่อาสาเข้ามาพื่อตำแหน่งทางการเมืองเหล่านี้ แต่ละคนล้วนมีความรู้ความสามารถ ซื่อสัตย์สุจริต เป็นคนดีของท้องถิ่น ที่ได้รับความรักความเคารพ ความเชื่อมั่นศรัทธา จากประชาชนในพื้นที่ทั้งสิ้น แต่นั่นคงเป็นได้เพียงในจินตนาการเท่านั้นแหละ เพราะมันตรงกันข้ามกับความเป็นจริง ที่ประชาชนได้รับรู้มาด้วยตนเอง 
ความจริงคืออะไร ? 
แม้แต่เด็กเลี้ยงควายที่เรียนไม่จบ ป.4 ก็ยังสามาถตอบคำถามนี้ได้ 
มันเป็นเรื่องที่น่าแปลก ที่คนอายุไม่กี่ปี กลับคิดว่าตัวเองมีความฉลาดรอบรู้ เลิศล้ำกว่าคนอายุมากกว่าตน ที่มีอยู่เป็นจำนวนนับหมื่นนับแสน หรือนับล้าน 
อะไร ? คือเหตุผลที่ทำให้ตัวเองมีความเชื่อมั่นได้ถึงขนาดนั้น ถ้าไม่ใช่ความหลงตัวเอง
พระท่านว่า ให้ระมัดระวังในเรื่องของ ความโลภ ความโกรธ และความหลง 
เนื่องจากมันเป็นต้นทางของความวิบัติอย่างแท้จริง 

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ผ่านไปอีก 1 ปี

วงล้อการเมืองเริ่มหมุน

จักรกลการเมือง