ความฝันของวันหนึ่ง


ทุกวันนี้ ผมไม่เคยแปลกใจตัวเองเลยที่มักจะชอบฝันทั้งๆ ที่ตัวเองยังคงลืมตาอยู่และกระทำกิจวัตรประจำวันอยู่ตามปกติ เพราะจิตใจของผมว่างเปล่าตลอดเวลา ไม่ต้องการอะไรมาเติมใส่ให้เป็นภาระรกสมอง เมื่อต้องการคิดอะไรก็จะปล่อยให้สมองคิดไปตามนั้นไม่มีการเหนี่ยวรั้งฉุดดึงสติของตัวเองให้กลับมาตั้งมั่นอยู่กับตัวตน เนื่องจากตัวตนสงบนิ่ง พอใจในสิ่งที่เป็นอยู่แล้ว

จึงไม่แปลกใจอะไรหากความฝันของผมจะวิ่งไปทั่วทุกหนแห่งมองเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นรอบด้านอย่างเป็นกลาง ไม่มีคำตัดพ้อ ไม่มีความคิดเห็น เพียงแต่บอกเล่าสิ่งที่พบเห็นในความฝันออกไปเท่านั้น ทุกคนมีความฝันของตัวเองตั้งแต่เริ่มมีสติรับรู้ในสิ่งที่เกิดขึ้น รับรู้ในสิ่งที่มองเห็นด้วยตา รับรู้ในกลิ่นที่ได้รับ รับรู้ในเสียงที่ได้ยิน และรับรู้ในรสสัมผัสที่พบพาน เพียงแต่ว่าเราจะยอมรับกับตนเองในสิ่งที่เราได้สัมผัสมาในความเป็นจริง หรือเราจะหลอกตัวเองให้จมอยู่กับความฝันตลอดไป

น้ำท่วม กำลังจะมาถึงในไม่ช้าและก็คงจะมีสถานการณ์ที่ใกล้เคียงกับที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2554 ประชาชนในต่างจังหวัดหรือในกรุงเทพฯ ก็คงจะต้องต่อสู้ดิ้นรนเอาตัวรอดเพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤติการณ์นี้ไปด้วยตัวเองเช่นเคย ความช่วยเหลือจากภาครัฐยังคงเป็นเพียงลมปากดังเดิม เพราะความช่วยเหลือนั้นยังคงจะมุ่งไปที่ระบบเศรษฐกิจของบรรดานักธุรกิจ นายทุน ที่มีส่วนช่วยในการแสวงหาผลประโยชน์ให้กับรัฐบาลหรือนักการเมือง มากกว่าที่จะมาทุ่มเทช่วยเหลือดูแลประชาชนซึ่งไม่ใช่ฐานเสียงของตน

การแสวงหาชื่อเสียงด้วยการระดมความช่วยเหลือต่างๆ จากประชาชนส่วนอื่นๆ ก็ยังคงเป็นยุทธวิธีที่ถูกนำมาใช้อย่างต่อเนื่อง การเรี่ยไรทรัพย์สินเงินทองและสิ่งของจากประชาชนทั่วไปเพื่อนำมาจัดเรียงใส่ถุงใส่กล่องแล้วเขียนชื่อของตนเองลงไปก็ยังคงเป็นแนวทางที่ถูกนำมาใช้เช่นเดิมไม่เคยเปลี่ยนแปลง มันเป็นกลยุทธการหาเสียงแบบไม่ต้องลงทุนอาศัยเพียงความหน้าด้านเป็นตัวนำทาง ในขณะที่รัฐบาลเองก็ยังคงอาศัยวิกฤติการณ์ของบ้านเมืองเป็นประตูไปสู่การเบิกจ่ายงบประมาณแผ่นดินอย่างเร่งรัด โดยไม่เคยคำนึงว่าเงินจำนวนนั้นเดินทางไปสู่ทิศทางใดและเพื่อประโยชน์แก่ผู้ใด

ในขณะที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนนับล้าน ภัยธรรมชาติก็ยังคงสามารถสร้างความร่ำรวยให้กับผู้คนได้หลายคนในเวลาเดียวกัน

นกจากจะต้องหวาดผวากับภัยธรรมชาติอย่างโดดเดี่ยวแล้ว ประชาชนในแผ่นดินก็ยังคงต้องยอมรับกับภัยที่เกิดจากความผันผวนของระบบเศรษฐกิจ ต้องระมัดระวังตัวเองจากการถูกประทุษร้ายต่อทรัพย์สิน ต่อชีวิต ต่อร่างกาย อยู่ทุกวันเช่นเดิม 

ไม่แน่ใจว่าฝันไปหรือไม่? ที่คิดว่าเงินงบประมาณแผ่นดินจำนวนมากมายที่นำไปจ่ายให้กับผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ไม่ได้ถูกนำไปใช้ตรงกับวัตถุประสงค์ที่แท้จริงเสมอมา แต่กลับเป็นการนำไปใช้จ่าย
  • เพื่อคุ้มครองปกป้องนักการเมืองเพียงไม่กี่คนให้เดินทางได้อย่างรวดเร็ว
  • เพื่อใ้ห้ประชาชนมีผู้ควบคุมบงการในการดำเนินชีวิตประจำวันให้อยู่ภายใต้ความหวาดกลัว 
  • เพื่อให้วินมอเตอร์ไซต์มีรายได้ที่มั่นคง
  • เพื่อให้ร้านขายทองสามารถดำเนินกิจการต่อไป 
  • เพื่อให้เจ้ามือหวยรายใหญ่ไร้ผู้แข่งขัน 
  • เพื่อให้บ่อนระดับชาติมีกิจการที่มั่นคงขึ้น
  • เพื่อให้ธนาคารมีความสมบูรณ์พูนสุข
  • เพื่อให้ผู้ค้ายารายใหญ่สามารถขยายตลาดได้กว้างไกล
เคยมีคำแนะนำสำหรับคนชอบฝันว่า หากยังอยากที่จะมีลมหายใจที่ยืนยาว พยายามหยุดฝันเสียเถิด เพราะความฝันไม่เคยสร้างผลดีให้กับู้คนในสังคม

เนื่องจากสังคมเราทุกวันนี้ 
เป็นของจริง

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ผ่านไปอีก 1 ปี

วงล้อการเมืองเริ่มหมุน

จักรกลการเมือง