สงครามเพื่อใคร?



ในที่สุดรัฐบาลรักษาการก็ยืนยันที่จะให้มีการเลือกตั้งทั่วไปใน 2 ก.พ.57 โดยไม่มีการเลื่อนออกไปตามคำแนะนำของศาลรัฐธรรมนูญและ กกต.ซึ่งมองเห็นถึงความวุ่นวายที่จะเกิดขึ้นในบ้านเมืองอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทำให้คาดการณ์ได้ว่า รัฐบาลมีเจตนาที่จะให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง เพราะแม้จะมีการเลือกตั้งตามวันที่กำหนดไว้ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้ตามกฎหมาย เนื่องจากมีหลายเขตเลือกตั้งที่ไม่สามารถเปิดให้ลงคะแนนเสียงได้ตามปกติ ทำให้จำนวนของ ส.ส.ไม่ครบถ้วนตามจำนวนที่กฎหมายระบุไว้

และก็เป็นอีกครั้งในจำนวนหลายๆ ครั้งที่รัฐบาลไม่ได้ให้ความสำคัญกับศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นองค์กรอิสระที่จัดตั้งขึ้นตามรัฐธรรมนูญ มีอำนาจตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้และเป็นรัฐธรรมนูญฉบับเดียวกันกับที่รัฐบาลชนะการเลือกตั้งเข้ามา

รัฐบาลชุดนี้จึงเป็นรัฐบาลเผด็จการที่สมบูรณ์แบบ เพราะมีเรื่องราวที่ถูกร้องเรียน ถูกฟ้องร้อง จนนับไม่ถูกว่ามีอยู่กี่เรื่องกันแน่ แต่รัฐบาลก็ยังไม่ใส่ใจยังคงดึงดันที่จะดำเนินการให้มีการเลือกตั้งต่อไปโดยอ้างถึงความเป็นประชาธิปไตย ... ตามความเข้าใจของรัฐบาล และก็ยังคงเดินหน้ากระทำเรื่องที่ขัดต่อกฎหมายต่อไปอีกอย่างไม่หยุดยั้งโดยไม่แยแสต่อความถูกต้อง และเสียงคัดค้านของประชาชนจำนวนมาก เพราะรัฐบาลอาศัยเสียงสนับสนุนจาก พลพรรคแดง ที่เป็นแนวร่วมในการนำพารัฐบาลขึ้นมาสู่อำนาจจากเลือดและความตายของผู้คนจำนวนมากที่ต้องสังเวยให้กับความกระหายในอำนาจของคนบางคน

ในช่วงของการเสวยอำนาจในฐานะของรัฐบาลได้มีการแสวงหาผลประโยชน์และฉ้อฉลในการใช้จ่ายเงินงบประมาณอย่างมูมมาม แม้แต่ในส่วนของเงินงบประมาณแผ่นดินที่นำไปผลาญให้กับโครงการประชานิยมก็ยังมีการตักตวงผลประโยชน์แบบตะกละตะกรามจนทำให้เกิดความเสียหายต่อโครงการต่างๆ มากมาย เชาน โครงการรับจำนำข้าวที่มีการทุจริตในทุกขั้นตอนทำให้สูญเสียเงินงบประมาณแผ่นดินไปมากกว่า 4 แสนล้าน ในขณะที่บรรดาแกนนำเสื้อแแดงที่เป็นทาสรับใช้รัฐบาลมาก่อนและก้าวขึ้นมาเป็น ส.ส.หรือ รัฐมนตรี ก็พากันกอบโกยผลประโยชน์แบบไม่ลืมหูลืมตาจนร่ำรวยกันทันตาเห็น

และจึงเป็นชนวนให้เกิดกระแสการต่อต้านอย่างท่วมท้นทั้งจากนักการเมืองฝ่ายค้าน นักวิชาการ กลุ่มพลังมวลชนต่างๆ รวมถึงประชาชนที่รับทราบข้อมูลที่เป็นความจริง และเคยเป็นกลางมาก่อนต่างก็พากันหมดสิ้นความอดทน และระดมพลต่อต้านรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง

จนกระทั่งรัฐบาลเริ่มออกกฎหมายที่เอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้องอย่างหมดสิ้นความละอาย และออกกฎหมายแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างเ็ห็นแก่ตัวก็ยิ่งสร้างความไม่พอใจให้กับประชาชนอย่างท่วมท้น

ความดี กับ ความเลว 
สามารถมองเห็นได้ด้วยสายตาและสมองที่มีปัญญา

ไม่ใช่สมองที่เต็มไปด้วยความโลภ และความเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน

ปัญญา ...
ที่สามารถแยกแยะความแตกต่าง
ระหว่าง ความเป็นคน
กับ ความเป็นเศษคน

นี่คือ สภาวะของสงคราม
ที่เกิดจากความตั้งใจของรัฐบาล

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ผ่านไปอีก 1 ปี

วงล้อการเมืองเริ่มหมุน

การเมืองใต้ตม