บิดเบือนหรือเบี่ยงเบน


สถานการณ์ทางการเมืองในวันนี้ยังคงความอึมครึมไว้เช่นเคย ปล่อยให้ประชาชนพากันคาดเดาเหตุการณ์ล่วงหน้ากันเอาเองตามอัธยาศัย ในขณะที่องค์กรอิสระต่างก็พยายามที่จะกอบกู้ศักดิ์ศรีของตนเองกลับคืนมาด้วยการใช้ดุลยอำนาจที่มีอยู่ตามรัฐธรรมนูญกระทำในสิ่งที่ถูกต้องชอบธรรม ฝ่ายตุลาการก็พยายามฝ่าด่านอันแข็งแกร่งของกำแพงเงินตราที่ระดมเข้ามาต่อต้านด้วยวิธีการต่างๆ นาๆ เพื่อนำอำนาจของกฎหมายมาบังคับใช้ด้วยความเที่ยงธรรม

ซึ่งรัฐบาลรักษาการชุดนี้ก็ใช้ความพยายามเต็มที่เช่นกันในการปลุกระดมมวลชนคนเสื้อแดงที่เคยลากจูงพวกตนเข้ามาสู่สภาอันทรงเกียรติด้วยเลือดและชีวิต หลังจากที่พลาดท่าเสียรังวัดไปในการปล่อยให้พลพรรคโกงกินกันอย่างคึกคะนองหลงระเริงลืมตัว ทำให้ชาวนาส่วนใหญ่ที่เป็นคนเสื้อแดงและชื่นชอบในนโยบายประชานิยมแบบล้มประเทศเช่นนี้ พากันตีจากออกไป  และทำท่าว่าจะไปร่วมกับฝ่ายตรงข้ามเนื่องจากขายข้าวให้รัฐบาลแล้วกลับไม่ได้เงินมาตามที่ควรจะเป็น ทำให้รัฐบาลต้องดิ้นรนอุตลุดในทุกวิถีทาง ทั้งยอมเสี่ยงกระทำในเรื่องที่ผิดกฎหมายหลายต่อหลายเรื่องเพียงเพื่อกอบกู้สถานการณ์ที่ย่ำแย่กลับคืนมาโดยเร็ว

แต่การนำเงินสดจำนวน 1.3 แสนล้านมาจ่ายค่าข้าวภายในเวลาอันรวดเร็วกลับเป็นเรื่องที่สุดความสามารถของรัฐบาล เพราะปัญหาเกิดจากการกักตุนข้าวไว้เพื่อหวังผลกำไรเป็นความคิดของคนโง่โดยบริสุทธิ์ เนื่องจากข้าวสารที่สีกักตุนไว้กส่วนมากกำลังแปรสภาพเป็นแป้งหมักที่เหมาะในการทำสุรามากกว่า 

และข้าวเปลือกที่เข้ามาใหม่ๆ มีสภาพสมบูรณ์ที่รัฐบาลซื้อมาจากชาวนาในราคาสูงสุดตันละ 12,500 บาทถูกมือลึกลับซื้อไปจากคลังเก็บของรัฐบาลในราคาตันละไม่เกิน 6,000 บาทบาท ก่อนจะถูกหมุนเวียนนำออกไปเร่ขายให้กับโรงสีในโครงการเป็นรอบที่สองในราคาตันละ 12,500 บาท และข้าวที่ถูกนำไปเข้ากระบวนการนี้ไม่ทราบว่ามีจำนวนกี่ล้านตัน

นี่ยังไม่นับรวมบรรดาชาวนาปลอมที่มีการแจ้งจำนวนผลผลิตที่นำเข้ามาจากประเทศพม่า เขมร อีกหลายแสนตันในแต่ละรอบการผลิต 

นี่ยังไม่นับรวมยอดข้าวเปลือกที่มีแต่ตัวเลขอีกนับแสนตัน ที่ทำให้เกิดปัญหาไฟใหม้ข้าวสารในคลังเก็บหลายแห่งทั่วประเทศเพื่อทำลายหลักฐานเนื่องจากไม่มีอยู่จริง

นี่ยังไม่รวมถึงการคัดเลือกโรงสีของพวกพ้องเข้ามาในโครงการ

นี่ยังไม่นับรวมถึงบรรดาคลังเก็บข้าวเปลือกที่ไม่มีมาตรฐานอีกมากมายในโครงการ

ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นจากน้ำมือของบรรดานักการเมืองที่กอบโกยผลประโยชน์จากประเทศชาติจนกลายเป็นสันดานที่ต้องบรรจุลงในนโยบายหลักของพรรค 
ทั้งจากพรรคที่เป็นรัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาลที่มีประวัติการโกงกินจนติดเป็นนิสัย

ยอมรับกันเสียทีเถอะครับว่า 
ความเป็นนักการเมืองอาชีพของหลายๆ คน 
มันหมายถึงการแสวงหาผลประโยชน์จากทรัพยากรของประเทศ 
จากหยาดเหงื่อแรงงานของประชาชน 
และจากชีวิตเลือดเนื้อของประชาชน

มันยังคงโกงกินเสมอมา

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ผ่านไปอีก 1 ปี

วงล้อการเมืองเริ่มหมุน

การเมืองใต้ตม